วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

ครั้งนึงในชีวิต พิชิตเกาะ Lamma ตามหา Lamma Winds

Lamma Island

     เป้าหมายของการเดินทางไปฮ่องกงของแต่ละคนส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นเรื่องช็อปปิ้งของแบรนด์เนม เที่ยวชิมอาหารอร่อย และไหว้พระตามวัดต่างๆ แต่เป้าหมายสำหรับผมในการเยือนฮ่องกงในครั้งนี้คือ "ตามหากังหันลม Lamma Winds" 
     ทำไม Lamma Winds ถึงเป็นจุดหมายของผม ทำไมผมต้องตามหา Lamma Winds หลายคนคงเกิดความสงสัย เช่นเดียวกับผมซึ่งผมก็ยังบอกไม่ได้ว่าเหตุผลอะไรที่พาผมไปหามัน แต่ที่ผมไปหามันเพราะผมอยากให้คนที่ได้อ่านบทความนี้ตระหนักถึงปัญหามลพิษ ปัญหาสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นจากการที่เราใช้พลังงานกันอย่างสิ้นเปลือง มันถึงเวลาแล้วรึยังที่ประเทศไทยเราจะร่วมกันลดการใช้พลังงาน และหันมาพัฒนาแหล่งพลังงานทดแทนกันบ้าง และนี่คืออีกหนี่งสถานที่ Unseen in HongKong ที่หลายคนอาจไม่เคยสัมผัส กับ "Lamma Winds"


    Lamma Winds มีความสูง 71 เมตร เปิดใช้งานครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2006 และเป็นกังหันลมแรกในฮ่องกง ถือเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการวิศวกรไฟฟ้า และการไฟฟ้าของฮ่องกง ในการผลิตไฟฟ้าโดยกังหันลมเป็นครั้งแรก

   นอกจาก Lamma Winds แล้วนั้น พื้นที่บนเกาะ Lamma ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีก เช่น
  • เส้นทางการเดินป่าศึกษาธรรมชาติบนเกาะ Lamma
  • ทะเลและชายหาด
  • อาหารทะเล
  • และของฝากจำพวกอาหารทะเล เช่น กุ้งแห้ง ปลาหมึก

การเดินทาง
              ก่อนการเดินทางในครั้งนี้ผมขอแนะนำให้ทุกท่านที่มี smartphone ระบบ Android ติดตั้ง app ที่ชื่อว่า HKFerry HD กันก่อนนะครับ เพราะว่าเราจะได้สะดวกในการเช็คเวลาขึ้นเรือ Ferry ครับ ท่านสามารถดูรีวิว app นี้ได้เลยที่นี่ครับ รีวิว app HKFerry HD           

             เกาะ Lamma นั้นเราจะต้องเดินทางด้วยเรือ Ferry จากท่าเรือ Central จากฝั่งฮ่องกง ซึ่งเกาะ Lamma นั้นจะมีท่าเรือใหญ่อยู่ 2 ท่าเรือ คือ ท่าเรือ Yung Shue Wan และ ท่าเรือ Sok Kwu Wan ซึ่งทั้ง 2 ท่าเรือนี้สามารถเดินทางออกจากท่าเรือ Central Pier No.4 ได้เหมือนกัน เพราะฉนั้นท่านจะต้องดูป้ายที่ Central Pier No.4 ให้ดีว่าถ้าจะไป Yung Shue Wan จะต้องไปขึ้นเรือตรงไหน หรือจะไป Sok Kwu Wan จะต้องไปขึ้นเรือตรงไหน
 ภาพนี้เป็นภาพท่าเรือ Central Pier No.4 จะเห็นว่ามีป้ายเล็กๆสีน้ำเงินบอกว่า Sok Kwu Wan ไปทางซ้าย ส่วน Yung Shue Wan ไปทางขวาครับ

             ส่วนตัวผมเลือกที่จะไปลงที่ท่าเรือ Yung Shue Wan เพราะว่าใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าและถูกกว่า ส่วนใครที่จะไปลง Sok Kwu Wan ก็ได้เหมือนกัน ผมข้อสรุปรายละเอียดของท่าเรือทั้ง 2 ท่า เพื่อเป็นข้อมูลวางแผนการเดินทางของทุกท่าน ดังนี้ครับ
  • ท่าเรือ Yung Shue Wan ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ราคาตั๋ว วันจันทร์-เสาร์ ราคา 16.1HK$ ส่วนวันอาทิตย์และวันหยุด ราคา 22.3HK$
  • ท่าเรือ Sok Kwu Wan ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ราคาตั๋ว วันจันทร์-เสาร์ ราคา 19.8HK$ ส่วนวันอาทิตย์และวันหยุด ราคา 28 HK$
หมายเหตุ สามารถใช้บัตร Octopus ได้


           หลังจากเกริ่นนำมาพอสมควรแล้วผมก็ขอเริ่มรีวิวเรื่องราวการเดินทางต่อเลยนะครับ การเดินทางไปตามหากังหันลม Lamma Winds ของผมในครั้งนี้ ผมเริ่มออกจากที่พักในเวลาประมาณ 9.00 น. หลังจากเช็คตารางเวลาเรือ Ferry ด้วย app HKFerry HD แล้วเห็นว่ารอบเรือ Ferry ที่จะออกจากท่าเรือ Central Pier No.4 ไป Yung Shue Wan นั้น รอบต่อไปออกเวลา 9.30 น. 

             ผมเห็นว่าถ้าจะไปรอบ 9.30 น.คงไม่ทันเลยจะไปรอบ 10.10 น. ดีกว่า ก็เลยแวะไปหาอาหารเช้าทานก่อนที่ Wing Lok Yuen Restaurant หลังจากนั้นพอได้เวลาสมควรก็ออกเดินทางไปยัง Central Pier No.4 ครับ การเดินทางไปไม่ยากครับ เดินตามป้ายบอกทางไปครับ ไม่หลง
พอถึงท่าเรือ CP No.4 ก็เอาบัตร Octopus ไปแตะที่ประตูทางเข้าคล้ายๆกับขึ้นรถไฟฟ้าเลย

ภาพเรือ Ferry ที่จะพาเราไปเกาะ Lamma ครับ
แต่ละรอบเรืออาจจะไม่เหมือนกันนะครับ บางรอบก็ได้เรือเก่า บางรอบได้เรือใหม่แล้วแต่โชคชะตาครับ แต่ว่าปลอดภัยเหมือนกันครับ

จากภาพจะเห็นว่าเกาะ Lamma จะอยู่เยื้องลงมาทางใต้ของเกาะฮ่องกง
ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือ CP No.4 ฝั่งฮ่องกงมาเกาะ Lamma ที่ท่าเรือ Yung Shue Wan ประมาณ 30 นาทีก็ถึง
ภาพท่าเรือ Yung Shue Wan
ทางเดินเข้าเกาะ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยจักรยาน

                หลังจากนั้นก็ดูแผนที่การเดินทางกันซักหน่อย โดยจุดที่ผมจะเริ่มต้นเดินก็คือจุดสีเขียวที่เขียนว่า Starting Point แล้วเดินไปจุดที่ 2, 3, 4, 5 และ 6 ตามลำดับ ท่านสามารถดาวน์โหลดแผนที่เกาะ Lamma ได้ที่นี่ครับ <<ดาวน์โหลดแผนที่เกาะ Lamma>>

                 ขอโชว์ภาพถ่ายอย่างเดียวละกันนะครับ เพราะว่าถ้าคุณมีแผนที่แล้ว ผมมั่นใจว่าไม่หลงครับมีป้ายบอกตลอดทาง
ทางเดินช่วงแรกๆก็เดินสบายๆครับแดดไม่ร้อน
แวะดูแผนที่บ้าง ถ่ายรูปบ้างตามอัธยาศัย
เดินเท้าขึ้นเขามาประมาณ 30 นาทีก็ถึงจุดหมายครับ Lamma Winds
ขึ้นมาไม่มีคนเลย เหงาจัง
หลังจากนั้นก็เดินย้อนกลับมาเพื่อไปจุดหมายสุดท้ายกันครับ นั่นคือท่าเรือ Sok Kwu Wan เพื่อนั่งเรือ Ferry กลับฝั่งฮ่องกงครับ
เดินเข้าป่าไป เมื่อยก็นั่งพักกันกลางป่าเลย
ระหว่างทางแอบมองวิวลอดพุ่มไม้ออกมา โอ้ว!! สวยงามมากครับ
ทางเดินขากลับเริ่มร้อนครับ อย่าลืมทาครีมกันแดดกันด้วยครับ ร่ม หมวกใส่ให้ครบ แดดแรงครับ
เหนื่อยก็พักถ่ายรูปกันไป แต่อย่าลืมเช็คเวลาเรือ Ferry ด้วยนะครับ ระวังจะตกเรือ


            แวะพักถ่ายรูปชายหาดที่มีแต่หิน แต่ก็สวยดีครับ เงียบสงบไร้ผู้คน ไร้ความวุ่นวาย ตอนแรกนึกว่าชายหาดนี้คือ Hung Shing Yeh Beach ที่เป้าหมายหมายเลข 3 แต่ไม่ใช่ครับ เลี้ยวผิด ถึงว่าทำไมไม่มีคน
เดินย้อนกลับมาอีกไม่กี่กิโลก็เจอชายหาด Hung Shing Yeh Beach แต่ก็ยังคนน้อยอีกเหมือนเดิม
ข้อห้ามก็เยอะเหมือนกัน ออกเดินทางต่อดีกว่าครับ
เดินออกจากหาดชายมาดูป้าย เห็นป้ายเขียนบอกว่า Sok Kwu Wan เดินอีก 50 นาที
มีชาวฮ่องกงมานั่งกินบาร์บีคิวกันบริเวณที่พักริมหาด มีความสุขกันจริง
เดินขึ้นเขาไปก็จะเจอศาลาพักริมทางแบบนี้ค่อนข้างเยอะ
              ระหว่างทางเจอโรงเรียนร้างครับ หลายคนก็คงเดินผ่านไป แต่สำหรับผมไม่ครับ เพื่อเป็นการ Unseen in Hong Kong ผมจะลองเข้าไปดูครับ ปรากฎว่าประตูล็อคครับ แต่ก็ไม่พ้นความพยายาม
ลูกกรงขาดครับ ทางเข้าของเรา อิอิ เข้าไปดูกัน
             สภาพโรงเรียนภายในก็เป็นอย่างที่เห็นครับ ถ่ายมาภาพเดียวครับ เพราะกลัวเหมือนกัน 555 แล้วก็รีบด้วยกลัวไม่ทันเรือ Ferry ครับ
บนเกาะนี้ใครพาสุนัขมาเดินเล่นก็ต้องพามาขับถ่ายให้ถูกที่นะครับ
                ระหว่างทางเจอถ้ำอะไรอีกแล้ว หลายคนคงเดินผ่านไป แต่สำหรับผมก็ขอผ่านเหมือนกันครับ ไม่กล้าเข้าไปดูกลัวตุ๊กแกครับ แต่มีป้ายบอกหน้าถ้ำครับว่าคือถ้ำ Kamikaze
ป้ายบอกชื่อถ้ำ Kamikaze จากการอ่านคร่าวๆด้วยความรู้ภาษาอังกฤษอันน้อยนิดก็ได้ความว่า ถ้ำ Kamikaze สร้างโดยทหารญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดประสงค์เพื่อไว้ซ่อน Speedboat และอาวุธครับ
ภาพบ้านขาวประมงที่ตกแต่งโดยการทาสีสัน วาดรูปแปลกๆ
                   และแล้วการเดินทางกว่า 4 ชั่วโมงบนเกาะ Lamma ก็สิ้นสุดลง เป้าหมายข้างหน้าก็คือท่าเรือ Sok Kwu Wan ครับ การเดินทางในครั้งนี้ผมได้สัมผัสกับชีวิตแบบชาวประมง พบเจอหมู่บ้านชาวประมง พบเจอโรงเรียนร้าง ได้สัมผัสธรรมชาติ ความสงบ ไร้ความวุ่นวาย ซึ่งถือเป็นการเพิ่มประสบการณ์ในชีวิตแบบ Unseen ได้อย่างดีครับ

ขอบคุณครับ


1 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุญาตฝากลิงค์นะคะ
    เล่นคาสิโนบนมือถือ เล่นผ่าน App บน iPad iPhone และ มือถือ ระบบ Android ที่นี่เลยค่ะ
    https://www.111player.com

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยม

ติดตามความ Unseen ได้ที่ Fanpage

ผู้สนับสนุน

Hotels2thailand.com